แนะนำ

วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ตี๋ใหญ่ ตอนที่ 3


ตอนที่ 3
อาศัยฟ้าแทนมุ้ง
อาศัยโรงแรมแทนบ้าน
อาศัยร้านอาหารแทนครัว
อาศัยโสเภณีแทนเมีย
และนี่คือตี๋ใหญ่......

สมัยก่อนนั้นประเทศไทยหาซื้ออาวุธปืนไม่ยากถ้ามีทรัพย์ โดยเฉพาะช่วงนั้นสงครามเวียดนาม เขมร ลาว พม่า ยังระอุทำให้ตี๋ใหญ่ได้ปืนมาไม่ยากจากการช่วยเหลือของเพื่อน ก็ได้เป็นเจ้าของอาวุธปืน 11 มม. ไว้เป็นเพื่อนตาย และแน่นอนพอนักเลงมีปืนมันก็อยากลองของ ตี๋ใหญ่เริ่มฝึกยิงไม่ว่าเป็นเป้านิ่ง หรือเป้าเคลื่อนไหว ศัตรูคู่อาฆาตของเขาเอง
ในไม่ช้าเมื่อตี๋ใหญ่เริ่มเชี่ยวชาญยิงปืนถึงขั้น แม่นราวจับวาง เขาเริ่มคิดว่าการเป็นนักเลงคุมซ่องมันไม่พอกิน เลยปรึกษากับเพื่อนเพื่อขอลาเสี่ยปิ่นเพื่อจะได้พ้นจากอาณัติไปสู่โลกอิสระที่ท้าทาย
แต่....ชีวิตอิสระ มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะช่วงนั้นตี๋ใหญ่ขาดเงิน ทำให้ต้องจำใจเป็นลูกวัดที่วัดกาหลงของ หลวงพ่อสุด เกจิอาจารย์ชื่อดัง ของจังหวัดสมุทรสาคร เป็นการชั่วคราว

               ด้วยความเป็นหนุ่มกระทงพูดจาคมคาย อ่อนน้อมต่อผู้อาวุโส มีความขยัน และชอบศึกษาพุทธาคม สวดมนต์เก่ง ทำให้พระอาจารย์หลวงพ่อสุดชมชอบตี๋ใหญ่มากๆ จนมอบของขลังหลายอย่าง เช่นเหรียญ เสือหมอบ เสือเผ่น ยันต์ตระกร้อ และ ตะกรุดโทน ซึ่งแต่ละอย่างล้วนเป็นที่ปรารถนาของพวกนิยมชมชอบศาสตร์เร้นลับแขนงนี้
แต่.................สันดานก็คือสันดาน วัดไม่ได้ช่วยให้จิตใจเลวๆ ของตี๋ใหญ่พัฒนาขึ้นเลย มือตี๋ใหญ่มีปืนมีของขลัง ตี๋ใหญ่เริ่มตั้งตัวเป็นโจรเพราะมันง่ายดีปล้นทีเดียวก็ได้เงิน เขาเริ่มรวบรวมลูกน้อง โดยส่วนใหญ่เป็นหนุ่มดำเนินสะดวกที่ศรัทธาในตัวเขามาเป็นลูกน้อง ทำให้กลายเป็นแก๊งอิทธิพลย่อยๆ ในดำเนินสะดวกในเวลาต่อมา
และแล้ววันประวัติศาสตร์ ของวงการตำรวจก็มาถึง และนี้คือผลงานเปิดตัวของตี๋ใหญ่แบบอหังการ.....

ปล้น

                12 สิงหาคม พ.ศ.2516 ตี๋ใหญ่ในขณะนั้นอายุ 21 ปี และพรรคพวกเข้าไปปล้นครั้งแรกในชีวิต เหยื่อรายแรกคือ นายอดิศักดิ์ พิษณุวัตร เป็นเศรษฐีย่อยๆ คนหนึ่งในอำเภอดำเนินสะดวก
ตี๋ใหญ่กวาดเงินสด ทองรูปพรรณ และทรัพย์สินมีค่า รวมมูลค่าหลายแสนบาทอย่างง่ายดาย งานแรกถือว่าปล้นครั้งเดียวเท่านั้นไม่ได้ฆ่า หรือทำลายเจ้าทรัพย์แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ประจำ สภ.อ. ดำเนินสะดวกในสมัยนั้น ใช้เวลาสืบสวนไม่นานก็รู้แล้วว่าเป็นฝีมือของแก๊งค์ตี๋ใหญ่
แต่.................
มันสายเกินไปสำหรับตำรวจ เพราะตี๋ใหญ่ผู้เป็นหัวหน้านั้นรู้ตัวทัน เลยกบดานอย่างเงียบเชียบโดยไร้ร่องรอยเรียบร้อย
เมื่อมีครั้งแรก ก็ต้องมีครั้งต่อๆ มาแบบช่วยไม่ได้ คราวนี้ตี๋ใหญ่หวังจะพัฒนาการปล้นแบบก้าวกระโดด เป้าหมายคือร้านแอนนี่ จิวเวอรี่ ร้านนี้ไม่ธรรมดา เพราะมันตั้งในโรงแรมเอเชีย.....แน่นอนคนเข้าออกเพียบ และวงจรรักษาความปลอดภัยเป็นร้อย
ไม่รู้เพราะอะไรตี๋ใหญ่ถึงเลือกปล้นที่นี้ แต่ตี๋ใหญ่วางแผนอย่างดี เมื่อเวลามาถึงตอนสายปลายปี 2517 ตี๋ใหญ่นำลูกสมุน 5 คน พร้อม นางบุญปัน แก้วจันทร์ดี แต่งกายภูมิฐานทำทีไปชมอัญมณีภายในร้าน พอดีโอกาสทั้ง 6 สาวหนุ่มก็ปราดเข้าใช้อาวุธข่มขู่ กวาดเงินสดกับเครื่องประดับราคาสูงลงกระเป๋าเอกสารเท่าเวลาที่ตี๋ใหญ่กำหนดไว้ให้เพียง 5 นาที
เมื่อถึงเวลาตี๋ใหญ่ออกคำสั่งให้ถอย ลูกสมุนทั้งหมดรีบหนีไปยังรถเก๋งเช่าตามแผน แต่ระหว่างทางเกิดถูกฝ่ายเจ้าหน้าที่มาขัดขวางทำให้เกิดการดวลปืนยิงสนั่นโรงแรม หนึ่งในกลุ่มโจรได้สาดกระสุนปืนสังหารเจ้าหน้าที่ตาย 1 นาย และสามารถหลบหนีได้
ย่างเข้าต้นปี 14 มกราคม 2520 ตี๋ใหญ่ปล้นรถทัวร์ ของพื้นที่ สภ.อ.คลองหลวง และใช้ด้ามปืนตีศีรษะเจ้าทุกข์รายหนึ่งจนเลือดอาบหน้า และจัดการปลดทรัพย์สินผู้โดยสารทั้งหมดอย่างอุกอาจกว่าครึ่งร้อยและหนีไปอย่างลอยนวล
แต่.................
เงินที่ได้จากการปล้นแต่ละครั้งตี๋ใหญ่มักใช้หมดเพียงไม่กี่วัน นอกจากการนำเงินไปช่วยเหลือครอบครัวแล้ว ตี๋ใหญ่มักใช้เงินหมดไปกับสองสิ่งคือ ผู้หญิง และ การพนัน โดยเฉพาะ ไฮโล ตี๋ใหญ่ชอบมันเป็นพิเศษ เข้าบ่อนแต่ละครั้งหมดเงินเป็นหมื่น (ในขณะนั้นราคาทองคำมีราคาแค่พันบาทเท่านั้น) ทำให้ตี๋ใหญ่ใช้เงินหมดไปอย่างรวดเร็วปานหว่านหรือพิมพ์เองได้ ทำให้ตี๋ใหญ่ต้องออกไปปล้นแล้วปล้นอีก เป็นเช่นนี้เรื่อยๆ
                ปล. ที่ไม่ได้ลงลำดับเหยื่อที่ตี๋ใหญ่ฆ่า หรือลำดับเวลาที่ปล้น เหตุผลคือ เพราะไม่รู้ เนื่องจากว่าสมัยก่อนหนังสือพิมพ์ลงข่าวมั่วมาก แบบถ้าเกิดคดีปล้นฆ่าที่ไหนไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ก็ตามมักโยงไปที่ตี๋ใหญ่ทุกครั้งไป แบบว่าพี่แกมีส่วนผิดในคดีปล้นทั้งหมดในประเทศไทยในเวลานั้นว่างั้นเถอะ ส่วนทางด้านตำรวจก็ไม่มีหลักฐานที่ว่าตี๋ใหญ่เป็นคนทำ และเมื่อตี๋ใหญ่ตายก็ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาฆ่าคน-ปล้นใคร กี่รายกันแน่เพราะเจ้าตัวตายไปแล้ว...............


                จบตอนที่ 3

เรียบเรียงโดย : รู้ไว้ซะ
เพจFacebook
ช่องYOUTUBE

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น