วันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ตี๋ใหญ่ ตอนที่ 7


ตอนที่ 7
อาศัยฟ้าแทนมุ้ง
อาศัยโรงแรมแทนบ้าน
อาศัยร้านอาหารแทนครัว
อาศัยโสเภณีแทนเมีย
และนี่คือตี๋ใหญ่......

                11 มีนาคม พ.ศ.2522
                เกือบเป็นวันอวสานของตี๋ใหญ่ เมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่าเขากบดานอยู่ที่บ้านพักภารโรง ของโรงเรียนวัดเขมาฯ ในอำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นเพื่อนของเขา
                กำลังของเจ้าหน้าที่กว่า 50 นายเข้าล้อมไว้ตั้งแต่ตอนหัวค่ำจนเพิ่มขึ้นเป็นร้อยในเวลาใกล้สว่าง พื้นที่ถึงเวลาลงมือเข้าจับกุมในสมัยนั้น รอบๆ โรงเรียน ยังเป็นสวนผลไม้รายล้อบ เมื่อตี๋ใหญ่และลูกสมุนสองคนรู้ตัวว่าตำรวจกำลังล้อมเขา แต่ก็ไม่มอบตัว และยังคงเตรียมตัวอยู่ในบ้านเตรียมหลบหนี
                ขั้นแรกตำรวจส่งเสียงประกาศให้ตี๋ใหญ่มอบตัวแต่โดยดีไม่งั้นเราจะจับตาย แต่จนถึงฟ้าสว่างจอมโจรและสมุนก็ยังเงียบ ทำให้ตำรวจต้องเปลี่ยนแผนหันมาใช้นายยุทธนา แซ่ตั้ง สมุนโจรที่ตำรวจจับได้ก่อนหน้าไปเกลี้ยกล่อมตี๋ใหญ่แทน
                นายยุทธนาที่ถูกตำรวจใช้สายยางผูกตัวไปเจรจาตี๋ใหญ่ เดินเข้าไปเจารจากับลูกพี่นานแสนนานแต่ไม่ได้ผล ตี๋ใหญ่ยอมสู้มากกว่าโดนจับเขาตะเพิดยุทธนา ขืนกล่อมอีกจะโดนยิงทิ้งซะ
                ทูตโจรจำยอมถอยเพื่อรักษาชีวิตยามหน้าสิ่วหน้าขวาน
                ขณะเดียวกันตำรวจเริ่มรอเปิดศึก เพราะการล้อมจับกุมนั้น ชาวบ้านแถวนี้ไม่รู้เรื่อง ทำให้เด็กๆ นักเรียนหลายคนเริ่มทยอยกันมาในโรงเรียน ตำรวจเกรงว่าท่าไม่จัดการเรื่องนี้ให้เสร็จ มีหวังมีผู้เคราะห์ร้ายโดนลูกหลงหลายราย


                จากนั้นตี๋ใหญ่เริ่มเห็นโอกาส พวกโจรใช้จังหวะนั้นเสี่ยงตายผ่าวงล้อมของตำรวจหนีไปได้ อย่างไม่น่าเชื่อ ในขณะที่ตำรวจหลายนายเสียชีวิตและบาดเจ็บหลายคน

                ตี๋ใหญ่เลือกวิ่งหนีไปทางถนนใหญ่ ซึ่งตอนนั้นชาวบ้านกำลังคับคั้งเต็มสองฝั่งถนน ซึ่งทำให้ตำรวจไม่ยิงต่อสู้เพราะอาจถูกชาวบ้านได้
                จากนั้น จอมโจรก็วิ่งซิกแซกหลบกระสุนปืนที่ซัลโวใส่ราวห่าฝนหนีไปในป่าละเมาะเบื้องหน้า
                ระหว่างชุลมุน ในขณะที่เจ้าหน้าที่สนใจตี๋ใหญ่ สองสมุนแว่บไปซ่อนหลังบ้าน แต่ก็ไม่พ้นสายตาตำรวจ สองโจรถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้
                แต่อนิจจา....ตี๋ใหญ่หายตัวไปแล้ว
เหตุการณ์ในครั้งนี้ยิ่งทำให้ชื่อของตี๋ใหญ่โด่งดังไปอีก จนมีเสียงเล่าลื่อกันว่าตี๋ใหญ่มีอาคม เป็นจอมโจรขมังเวทย์ มีคาถากำบังหายตัวได้ จึงทำให้หลุดรอดจากการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปอย่างหน้าตาเฉย ซึ่งความจริงแล้วเหตุการณ์ครั้งนี้ตี๋ใหญ่แทบเอาชีวิตไม่รอดเพราะเขาต้องซ่อนตัวในใต้น้ำหลายชั่วโมง โดยอาศัยความรู้สมัยเด็กดำเนินสะดวกใช้ก้านมะละกอเป็นท่อหายใจ นอนซ่อนอยู่ใต้น้ำ................
                อวสานตี๋ใหญ่
                ความแค้นใหญ่หลวง ที่เกือบถูกปลิดชีวิตที่เมืองนนท์นั้น กล่าวกันว่าตี๋ใหญ่ผูกใจเจ็บนายตำรวจชุดจับกุมอย่างมาก โดยเฉพาะผู้การสมเกียรติ พ่วงทรัพย์ ตี๋ใหญ่จะเกลียดเป็นพิเศษ ถึงขั้นขนาดดักลอบฆ่านายตำรวจมือปราบคนนี้หลายครั้ง หลายครา แต่คนดีผีคุ้ม แผนของตี๋ใหญ่ไม่สำเร็จ
                


                วันที่ 29 เมษายน 2522 เวลา 13.10 น.
                ที่ร้านทองแม่บุ้งกี่ เลขที่ 986/39 ในตลาดมหาชัย ถนนสุขาภิบาล จ.สมุทรสาคร กำลังเปิดร้านตอนเที่ยง
                ในร้านประกอบด้วยนายสมัคร วรานุภาพ อายุ 53 ปี เจ้าของร้านกำลังคุยกับนายสมาน วรานุภาพ อายุ 50 ปี น้องชายพร้อมนางปราณี ภรรยาวัย 39 ปี นั่งอยู่ใกล้ๆ กัน ถัดมาเป็นนายสุธีลูกชายของนายสมัครอายุ 19 ปีรวมกับลูกๆ ของนายสมานมีนายธีระธรกับ ด.ช.สาธิต อายุ 15 ปี รวมอยู่ด้วย นอกจากนี้หลังร้านมี นางสาวจิราภรณ์ บุตรสาวของนายสมัครนั่งทำงานบ้านอยู่กับนางคำปัน คำมา อายุ 17 ปี สาวใช้
                ทันใดนั้น......
                มีชายหนุ่มสองคน แต่งกายด้วยชุดทหารพราน กับชุดกากี ถือปืนกล เอ็ม.16  บุกเข้าร้านทองแหกปากให้ทุกคนในร้านห้ามขยับเขยื้อน
                นายสมัครตกใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เขารีบหนีเข้าหลังร้าน แต่ไม่ทัน เพราะคนร้ายกราดยิงนายสมัครด้วยปืนเอ็ม.16 กระสุนถูกบริเวณหน้าผาก หน้าอกเบื้องซ้ายและหน้าท้องขาดใจตายคาที่ นอกจากนั้นกระสุนลูกหลงยังไปถูกนายสุธีที่ก้านคอกระสุนฝังใน นางปราณีโดนกลางหลัง นางสาวจิราภรณ์ที่อยู่ด้านหลังโดนกระสุนที่สะบักขวาทะลุปอด นางสาวคำปันโดนขาขวา นอกนั้นสามารถหลบลูกหลงอย่างหวุดหวิด
                จากนั้นคนร้ายรีบใช้ปืนยิงกราดตู้โชว์แล้วใช้พานท้ายปืนทุบตู้กระจกให้แตกละเอียด แล้วเก็บกวาดทองนากนานาชนิดใส่เป้สีเขียวแบบทหาร 2 ใบที่เตรียมมา
                ที่หน้าร้านมีคนร้ายสองคนดูต้นทางและคอยคุ้มกันจนเสร็จภารกิจ ทั้งหมดวิ่งไปทางท่าน้ำเทศบาล พอดีเวลานั้น จ.ส.ต.พลเทพ พลจันทร์ อายุ 42 ปี ตำรวจประจำตู้ยามสถานีรถไฟเกิดได้ยินเสียงปืนดังกึกก้องจึงออกไปดูว่าอะไรเกิดขึ้น และถูกคนร้ายยิงปืนใส่ด้วยปืนเอ็ม.16 จนตายคาตู้ยาม
                จากนั้น พลฯ แนบ ดวงสงฆ์ ตำรวจจราจร สภ.อ.สมุทรสาคร ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาเห็นเหตุการณ์และเกิดการต่อสู้กับกลุ่มคนร้ายและยิงโดนคนในกลุ่ม ล้มฟุตไปหนึ่งคนล้มเลือดกระฉูด
                ทว่า เหล่าคนร้ายไม่ยอมทอดทิ้งให้เพื่อนตายอย่างหมาข้างถนน พวกโจรยังอุตสาห์ประคองเพื่อนที่บาดเจ็บหนีไปอย่างทุลักทุเล ขณะเดียวกันก็ได้ใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าเป็นการข่มขู่ชาวบ้านและตำรวจเป็นระยะ ระยะ จากนั้นก็หนีมาที่ท่าน้ำของเทศบาลและหนีโดยทางเรือหางยาวขนาด 2 ตอนติดเครื่องกระหึ่มมุ่งหน้า อ.กระทุ่มแบน และก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
                เย็นวันเดียวกันมีการพบศพคนร้ายที่พลฯ แนบ ดวงสงฆ์ ยิงในขณะหลบหนีที่ สวนริมคลองตัน ในบ้านเลขที่ 74 ม.4  คลองตัน อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร
                นี่เองตำรวจเริ่มรู้ซึ้งแล้วว่าตอนนี้ตี๋ใหญ่กลายเป็นบุคคลอันตรายระดับชาติเสียแล้ว เพราะมันกลายเป็นสัญลักษณ์ของพวกโจร เป็นทั้งคนผลิตพวกโจรสายต่างๆ ออกมาเย้ยกฎหมายมาอย่างมากมายหลายก๊ก หลายเหล่า ถ้าปล่อยนานๆ เข้าโดยไม่ทำอะไร มีหวังประเทศไทยกลายเป็นแหล่งซ่องสุมชุมโจรเป็นแน่
                เจ้าหน้าที่ตำรวจจำต้องวางแผนทำอะไรสักอย่าง...........อะไรที่มีประสิทธิภาพ สามารถปราบตี๋ใหญ่ได้อย่างอยู่หมัด


                จบตอนที่ 7

เรียบเรียงโดย : รู้ไว้ซะ
เพจFacebook
ช่องYOUTUBE

2 ความคิดเห็น:

  1. ผมเปิดเผยขึ้นมาอาจลบประวัติบางอย่าง ตี๋ใหญ่เอาปืนจ่อหัวมาแล้ว มีประวัตทีผ่านมาอีกเยอะที่ไม่มีใครรู้

    ตอบลบ