รู้ไว้ซะ
“กินของหวานเยอะๆทำให้เป็นโรคเบาหวานจริงหรือไม่จริง?”
เราคงเคยได้ยินหลายๆคนพูดว่า
“กินของหวานเยอะๆระวังเป็นโรคเบาหวานนะ” นั่นล่ะครับเป็นที่มาของบทความนี้
“กินของหวานเยอะๆทำให้เป็นโรคเบาหวานจริงหรือไม่จริง” ....
โรคเบาหวานเป็นโรคที่คุกครามมนุษย์ทั่วโลก เป็นได้ทุกเพศทุกวัย
เมื่อพูดถึงเบาหวานก็จะได้ยินคนพูดบ่อยๆ ว่า “กินหวานเยอะๆจะทำให้เป็นเบาหวานได้” จริงอยู่ว่าสาเหตุของโรคเบาหวานคือการที่มีน้ำตาลในกระแสเลือดสูงเกินไป
แต่ก็ไม่ใช่สาเหตุโดยตรงที่จะทำให้เกิดโรคซะทีเดียว
แต่การทานอาหารที่มีปริมาณน้ำตาลสูงจะนำไปสู่ภาวะน้ำหนักเกินซึ่งจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวานได้
โดยปกติเมื่อเราทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดตเข้าไปร่างกายของเราก็จะทำการย่อยเจ้าคาร์โบไฮเดตให้กลายเป็น”น้ำตาลกลูโคส”
ที่จะดูดซึมเข้ากระแสเลือดต่อไป
ซึ่งจะให้เป็นพลังงานของร่างกายและเพื่อที่จะพาน้ำตาลกลูโคสเข้าสูเซลล์ต่างๆ
ของร่างกายเราต้องไปยืมแรงของ “อินซูลิน”
ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่สร้างจากตับอ่อนเพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างสมบูรณ์
แต่ในผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานตับอ่อนไม่สามารถสร้าง อินซูลิน ได้หรือสร้างไม่พอก็จะส่งผลให้การทำงานไม่มีประสิทธิภาพ
ผลที่ตามมาคือเกิดการครั่งของน้ำตาลในเส้นเลือดแดงจึงทำให้น้ำตาลในเลือดมีระดับสูงกว่าปกติจึงเป็นสาเหตุให้เป็น
“โรคเบาหวาน” นั่นเอง ซึ่งโรคเบาหวานแบ่งออกเป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ...
โรคเบาหวานชนิดที่ 1 (Type 1 Diabetes)
เป็นชนิดที่ต้องพึ่ง อินซูลิน
เนื่องจากตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เอง
จึงต้องพึ่งการฉีดอินซูลินเข้าทดแทนตลอดชีวิต โดยเบาหวานประเภทนี้พบได้ประมาณ 5%
ของผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน และเบาหวานอีกประเภทคือ
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 (Type
2 Diabetes) เบาหวานชนิดนี้เป็นชนิดที่พบได้เป็นส่วนใหญ่
มักจะพบในผู้ใหญ่ที่อายุมากกว่า 40 ปีขึ้นไปโดยเฉพาะคนอ้วน
เกิดขึ้นเนื่องจากตับอ่อนผลิต อินซูลิน ไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
ผู้จึงต้องมีการควบคุมอาหารและอาจต้องใช้ อินซูลิน ฉีดเป็นครั้งคราวด้วย
อย่างไรก็ดีไม่ได้แปลว่าผู้ป่วยโรคเบาหวานจะไม่สามารถทานอาหารหวานได้เลยทีเดียว
เพียงแต่ต้องควบคุมน้ำตาลและคาร์โบไฮเดตพร้อมกับเลือกทานอาหารและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
แค่นี้เราก็รู้สาเหตุและที่มาของโรคเบาหวานแล้ว
อย่าลืมด้วยว่าโรคนี้สามารถติดต่อทางกรรมพันธุ์ได้ด้วยเช่นกันนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในบทความต่อไป
หรือติดตามได้ทาง Facebookแฟนเพจ “รู้ไว้ซะ” สวัสดี ......
ที่มา : รายการ Did
You Know…? คุณรู้หรือไม่
เรียบเรียงโดย : รู้ไว้ซะ
เพจFacebook
ช่องYOUTUBE
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น